8/17/2022

ถูฟาน ถูเจี๋ยตะวันตก ถูเจี๋ยตะวันออก

ในเรื่อง "ยุทธจักรบูเช็กเทียน" ตั้งแต่เล่ม 6 เป็นต้นไป เป็นสงครามและความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรต้าถัง กับอาณาจักรทางตะวันตก 3 เผ่า ได้แก่ ถูฟาน (ทิเบต), และถูเจี๋ย ที่แยกเป็นตะวันตกกับตะวันออก โดยหยางฝานและเพื่อนต้องไปผจญภัยในอาณาจักรทั้ง 3 นี้

ตัวละครจากทั้ง 3 อาณาจักร มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์เกือบหมด เลยลองไปค้นหาข้อมูลจาก Wikipedia ดู และนำมาอ้างอิงไว้ ณ ที่นี้


ภาพจาก Wikipedia แสดงแผนที่ ถูฟาน (ทิเบต) ถูเจี๋ยตะวันตก-ออก และจีนราชวงศ์สุย ประมาณ ค.ศ. 600

ถูฟาน

อาณาจักรทิเบต (Tibet Empire) หรือที่เรียกว่า ถูรฟาน (Turfan) หรือ ถูรพาน (Turpan) เริ่มขึ้นมาเรืองอำนาจในปี ค.ศ. 618 โดยกษัตริย์ Songtsen Gampo ซึ่งนับเป็นกษัตริย์องค์ที่ 33 แต่แผ่ขยายอิทธิพลของประเทศได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก

เหตุการณ์ในนิยาย ถ้านับช่วงที่พระนางบูเช็กเทียนขึ้นครองราชย์ตรงกับปี 690 ซึ่งตอนนั้น กษัตริย์ทิเบตในเรื่องคือ Tridu Songtsen ซึ่งตามบันทึกของราชวงศ์ถังคือขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยจริงๆ แล้วยังอยู่ใต้อำนาจของเสด็จแม่ Khri ma lod หรือ Thrimalö 

ส่วนมหาเสนาบดี Gar Trinring Tsendro หรือชื่อในบันทึกภาษาจีนคือ Lùn Qīnlíng (หลุนชินหลิง) ตามในนิยาย ภายหลังก็พ่ายแพ้ โดยในอีก 9 ปีถัดมา (ปี  699) กษัตริย์ได้จัดงานล่าสัตว์หลอกหลุนชินหลิงมาติดกับ และไล่ฆ่าฝ่ายของหลุนชินหลิง ตัวของชินหลิงต้องฆ่าตัวตาย ส่วนครอบครัวหนีไปพึ่งราชวงศ์ถัง

หมายเหตุ: ในเหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ มีตัวละครแม่ทัพถูฟานชื่อ เหิงคงมู่เยี่ย ที่เดินทางมายังต้าถังและเป็นแขกของบูเช็กเทียน ซึ่งน่าจะเป็นตัวละครเดียวกับหลุนชิงหลิง ที่เคยมาเยือนต้าถัง

ถูเจี๋ย

อาณาจักรถูเจี๋ย (First Turkic Khaganate หรือ Göktürk) ก่อตั้งในปี ค.ศ. 542 หรือก่อนเหตุการณ์ในนิยายประมาณ 150 ปี  เดิมทีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายใต้การนำของตระกูลอาซื่อนา (Ashina) แต่มาขัดแย้งกันเองหลังข่านองค์ที่ 4 เสียชีวิตในปี ค.ศ. 584 ทำให้เกิดการชิงอำนาจกันเองภายใน (Gokturk Civil War) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงที่ตรงกับราชวงศ์สุย (สุยหยางตี้) ของจีน

ผู้แย่งชิงอำนาจมีทั้งหมด 4 คน โดยแบ่งเป็นองค์ชายร่วมปู่เดียวกัน 3 คนที่ชิงอำนาจในฝั่งตะวันออก (เมืองหลวง Otuken ปัจจุบันอยู่ในมองโกเลีย) และ Tardu (หรือ Tardush) เครือญาติที่ปกครองฝั่งตะวันตกที่อยู่ไกลออกไป (เมือง Ordukent หรือ Suyab ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศคีร์กิซสถาน)

เหตุการณ์นี้ทำให้ถูเจี๋ยกลายเป็นฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก


ภาพจาก Wikipedia แสดงแผนที่ถูเจี๋ย ราว ค.ศ. 600

ในช่วง 100 ปีหลังจากนั้น (บูเช็กเทียนขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการในปี 690) ทั้งถูเจี๋ยตะวันตกและออก นอกจากตีกันเองแล้ว ก็มีสงครามกับต้าสุย-ต้าถังอยู่เรื่อยๆ

ถ้าใครเคยอ่าน "มังกรคู่สู้สิบทิศ" ที่เป็นเหตุการณ์ยุคปลายสุยต้นถัง จะมีตัวละคร "ข่านแสลี่" (Jiali) จากถูเจี๋ยตะวันออก และ "ข่านถูลี่" 

ในยุคของจักรพรรดิถังไท่จง (หลี่ซื่อหมิน) และถังเกาจง (สามีของบูเช็กเทียน) ราชวงศ์ถังมีการยกกองทัพไปภาคตะวันตกอยู่หลายครั้ง และสามารถเอาชนะจนครองอำนาจเหนือเส้นทางสายไหมได้ยาวนาน จนมาถึงยุคสมัยของบูเช็กเทียน

ถูเจี๋ยตะวันตก

ถูเจี๋ยตะวันตก (Western Turkic Khaganate) เป็นสายย่อยของเผ่าถูเจี๋ย (Turkic) ที่มาอาศัยอิทธิพลของราชวงศ์ถังในยุคถังไท่จง-ถังเกาจงเป็นต้นมา

ตัวละครสำคัญในเรื่องคือ หูซื่อหลอ (Ashina Huselo) เข่อข่านของถูเจี๋ยตะวันตกที่ยอมสยบต่อราชวงศ์ถัง และอาศัยอยู่แต่ในอาณาจักรถัง ไปตีคลีกับพระเอกหยางฝาน

ในเล่ม 6 ยังมีตัวละครสำคัญอีกตัวคือ อูจือเล่อ (Whzhile) หัวหน้าชนเผ่าถูฉีซือ (Türgesh) ที่อยู่ใต้อาณัติ (ในนาม) ของหูซื่อหลอ และเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของถูเจี๋ยตะวันตก ในนิยาย เสิ่นมู่ เป็นเพื่อนกับอูจือเล่อและต้องการให้อูจือเล่อเป็นผู้ปกครองถูเจี๋ยตะวันตก

ในอนาคต อูจือเล่อจะยึดเมืองหลวงของถูเจี๋ยตะวันตก (Suyab) คืนได้และไปตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ตรงนั้น

ถูเจี๋ยตะวันออก

ถูเจี๋ยตะวันออก (Eastern Turkic Khaganate) พ่ายแพ้ให้กับราชวงศ์ถังช่วงต้น (ถังเกาจง) อย่างราบคาบ แต่ฟื้นฟูกลับมาได้ในยุคปลายของจักรพรรดิถังเกาจง สถาปนาขึ้นเป็น จักรวรรดิถูเจี๋ยที่สอง (Second Turkic Khaganate) เมื่อปี 682 หรือประมาณ 10 ปีก่อนในนิยาย

ผู้นำของจักรวรรดิถูเจี๋ยที่สองคือ เก่อตวอลู่ (Qutlugh หรือ Ilterish Qaghan) ที่ในนิยายเล่ม 6 นอนป่วยติดเตียงอยู่ ในวัยหนุ่มเขาเป็นผู้รวบรวมกองกำลังถูเจี๋ยตะวันออกที่หลงเหลืออยู่ แล้วรวมอาณาจักรกลับคืนมาใหม่ ช่วงปี 683 เป็นต้นมา เขารบชนะกองทัพถังอยู่หลายครั้ง

ผู้สืบทอดอำนาจของเก่อตวอลู่คือน้องชายของเขา อาซื่อนา ม่อเชวอ (Ashina Mochuo หรือ Qapaghan Qaghan) ซึ่งเป็นพ่อของ อาซื่อนามู่ซือ ที่หน้าตาคล้ายพระเอกหยางฝาน

อาณาจักรถูเจี๋ยตะวันออก มีอิทธิพลอยู่ประมาณ 60 ปี หลังจากนั้นก็เสื่อมถอยลงและถูกเผ่าอุยกูร์ดูดกลืนในปี 745

No comments:

Post a Comment