จุดที่สร้างความแตกต่างให้กับเรื่องนี้คือพระเอก กังปัง ฝึกวิชา "ครอบงำจิตใจ" ซึ่งอธิบายง่ายๆ ว่ามันคือวิชาชายงามหว่านสเน่ห์ให้หญิงสาวนั่นเอง อย่างไรก็ตาม พระเอกเรื่องนี้ไม่ได้บ้าเซ็กซ์เหมือนกับพระเอกของหวงอี้บางคน แถมออกจะเลี่ยงการเผชิญหน้ากับหญิงสาวอยู่ทั้งเรื่องด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเพื่ออนาคตของยุทธจักร เขาก็ต้องใช้วิชา "ล่อลวง" หญิงสาวของฝ่ายตรงข้ามมาเป็นภรรยาเพื่อลดทอนพลังของฝ่ายศัตรู (ฟังดูมีอุดมการณ์ดีมาก) หญิงสาวหลายๆ คนในเรื่องก็ฝึกวิชาทรงสเน่ห์เพื่อดึงดูดและควบคุมบุรุษเช่นกัน
วิธีการดำเนินเรื่องของ "ฟันฝ่าเก้าชั้นฟ้า" ถือว่าน่าสนใจเช่นกัน เพราะสองเล่มแรก การเดินเรื่องแทบทั้งหมดอยู่ใน "แดนลกเอี้ยงกือ" สถานบันเทิงไฮคลาสในนครฉางอาน ตัวละครฝ่ายพระเอกแทรกซึมเข้าไปในขบวนการของฝ่ายตรงข้ามทีละน้อย โดยใช้การต่อรอง การล่อลวง และการยุแหย่ให้ฝ่ายตรงข้าม (ที่มีหลายสาย) ขับเน้นที่อุบายมากกว่าวิชาบู๊ เน้นการสืบสวนเพื่อหาข้อมูลขององค์กรลับ คล้ายกับนิยายนักสืบ ซึ่งก็แปลกดี
อย่างไรก็ตาม พอขึ้นเล่มสาม การดำเนินเรื่องออกจากลกเอี้ยงกือและหันไปเน้นวิชาบู๊เป็นหลัก ทำให้เสียอรรถรสพอสมควร เพราะดำเนินเรื่องเร็วมาก ตัวละครที่เคยจำกัดวงในช่วงแรกๆ แตกกระจาย และตัดจบแบบรวดเร็ว (คือฝ่ายหัวหน้าตัวโกงตายกันง่ายมากๆ) เสียดายการปั้นโครงเรื่องในช่วงแรกๆ เป็นอย่างมาก
เรื่องนี้พระเอกได้เมียทั้งหมด 6 คนครับ มีทุกแบบทั้งนักร้อง กุนซือ โลลิค่อน และสาวมีอายุ อย่างไรก็ตาม บทเซ็กซ์ในเรื่องนี้ก็ไม่ได้เน้นอะไรมากนัก มีนิดหน่อยพอให้สมจริง หลักๆ เน้นไปที่การช่วงชิงอำนาจมากกว่า (ช่วงกลางๆ เรื่องจะค่อนข้างน่าเบื่อเล็กน้อย)
ตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องยกให้ "เตียสี่โกว" เจ๊ใหญ่ของเรื่องนี้ที่เป็นทั้งกุนซือ พี่สาว และเมียของพระเอก ที่เก่งกล้าวิชาทุกแขนง แถมยังเป็นหัวหน้าทีมตัวจริง วางแผนพร้อมสรรพ ในขณะที่พระเอกช่วงแรกๆ ดูเก่งกาจ มีแผนการมากมาย แต่ตอนหลังโลเลสับสน และเหลือความเด่นแค่วิชาบู๊เท่านั้น
สรุปแล้วคือเรื่องแปลกดีครับ อ่านพอเพลินๆ ได้เลย
No comments:
Post a Comment