4/11/2021

เจ้ารัตติกาลแผ่นดินเถื่อน เล่ม 21 (จบ)

"หยางอิ่งหลงก่อกบฎ"

จบสักที อ่านมา 21 เล่ม ถือว่านานเหมือนกัน

ตอนท้ายเล่ม 20 หยางอิ่งหลงตัดสินใจก่อกบฎ เนื้อหาครึ่งแรกของเล่ม 21 จึงเป็นการปราบกบฎของราชสำนัก

ช่วงแรก หยางอิ่งหลงล่อให้กองทัพของราชสำนักออกมาสู้ แกล้งสู้แพ้แล้วถอยทัพกลับเข้าดินแดนตัวเอง จากนั้นปิดทางถอยและปราบทัพแรกของราชสำนักได้สำเร็จ

ระหว่างที่ราชสำนักจัดทัพใหม่ เย่เสี่ยวเทียนเสนอตัวช่วยปราบกบฎเป็นคนแรก ฮ่องเต้แต่งตั้งให้มีอำนาจระดมพลจาก 8 เมืองใกล้เคียงเขาหนิวโถว (ซึ่งเป็นพื้นที่ตระกูลเถียนเดิมที่ราชสำนักยึดไป เท่ากับทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูลเถียนสำเร็จ) ระหว่างนั้น เถียนเมี่ยวเหวินกับเซี่ยอิ๋งอิ๋ง เริ่มตั้งครรภ์แล้ว

เย่เสี่ยวเทียนนำกำลัง 18,000 คนยกไปปราบกบฎ โดยนำเถียนฉือเฟิ่งไปด้วย เพื่อเป็นปฏิกิริยาตรวจสอบกำลังของหยางอิ่งหลง ระหว่างทางก็ยั่วกันไปมา (อีกแล้ว) แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรกัน 

เย่เสี่ยวเทียนไปช่วยหลี่ฮว่าหลง ข้าหลวงใหญ่ 3 มณฑลผู้รับผิดชอบสูงสุดในการปราบกบฎ ชักจูงแม่ทัพหลิวถิง ที่มีสายสัมพันธ์กับหยางอิ่งหลง มาช่วยนำทัพหลักแบบเต็มตัว เย่เสี่ยวเทียนใช้อุบาย ทั้งกล่าวโทษหยางอิ่งหลง ยกยอหลิวถิง ทำให้หลิวถิงยอมรับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่

เย่เสี่ยวเทียนรับบทเป็นทัพหน้าให้หลิวถิง ใช้ปืนใหญ่ของราชสำนัก ตีด่านติงซานแตก จากนั้นรอหลิวถิงเดินทางมาถึงถ้ำหนันมู่ ทัพกลางของหลิวถิงเดินหน้าต่อสู้กับกองทัพของหยางอิ่งหลงแบบดุเดือด ทหารเสียชีวิตมากมาย 

ทัพของหลิวถิงมาถึงด่านโหลวซาน ที่ภูมิประเทศตีหักได้ยาก เย่เสี่ยวเทียนใช้ท่าปล่อยหนอนคุณไสยลงในน้ำ เพื่อให้ทหารของหยางอิ่งหลงท้องร่วง เอาชนะด่านโหลวซานได้ไม่ยากเย็น พร้อมกับปล่อยข่าวให้เถียนฉือเฟิ่งทราบว่าเขามีไส้ศึกอยู่ภายใน หลังจากนั้นจึงปล่อยให้เถียนฉือเฟิ่งหลบหนีไป เพื่อไปส่งข่าวไส้ศึกให้หยางอิ่งหลงทราบ หยางอิ่งหลงจึงระแวงพ่อบ้านใหญ่ เฉินเซียว และประหารฆ่าทั้งตระกูล ทำให้เกิดความแตกแยกภายใน

เจ้าเหวินเอี่ยน สหายเก่าที่อยู่ฝั่งหยางอิ่งหลง เห็นว่าแพ้แน่ เลยกบฎมาอยู่กับฝ่ายของเย่เสี่ยวเทียน ระหว่างนี้เย่เสี่ยวเทียนตีกินหัวเมือง กินดินแดนฝั่งตะวันออกที่ติดกับตัวเองไปเรื่อยๆ โดยไม่เสียเลือดเนื้อมากนัก ปล่อยให้ทัพสายอื่นๆ ตีชิงเมืองอย่างยากลำบาก และในขณะเดียวกัน ตระกูลอันกับตระกูลซ่ง อีก 2 ตระกูลใหญ่ที่เหลือก็ส่งทัพมาเข้าร่วมกับราชสำนัก

ทัพทุกสายเดินทางมาถึงไห่ตงหลุน ฐานหลักของหยางอิ่งหลง หยางอิ่งหลงเห็นว่าไม่รอดจึงเผาไฟฆ่าตัวตาย ครอบครัวคนอื่นๆ ถูกจับไปนครหลวง เถียนฉือเฟิ่งถูกประหาร แต่ลูกสาวของหยางอิ่งหลงคือ หยางฮัว ถูกส่งมาเป็นหญิงรับใช้ของเย่เสี่ยวเทียน

เย่เสี่ยวเทียนประสบความสำเร็จอย่างสูง ยึดพื้นที่ของหยางอิ่งหลงและราชสำนัก ทะยานขึ้นเป็น 1 ใน 3 ถู่ซือใหญ่ เคียงคู่ไปกับตระกูลอันและตระกูลซ่งเดิม ท้ายเล่ม เย่เสี่ยวเทียนไปช่วยแก้ปัญหา ซ่งเสี่ยวหวี่ ธิดาของตระกูลซ่ง และอดีตคู่หมั้นของเถียนปิงฮุย จนได้มาเป็นเมียอีกคน (ซะอย่างนั้น บทจับยัดประมาณนึง)

ช่วงท้ายเล่ม เย่เสี่ยวเทียนยังได้ลงเอยกับเหยาเหยา ที่เติบโตเป็นสาวแล้ว และหลงรักเย่เสี่ยวเทียนมาโดยตลอด (แต่เย่เสี่ยวเทียนมองเป็นน้อง) แต่เหยาเหยาได้รับการกระตุ้นจากอวี่จวินถิง ทำให้ตัดสินใจบุกเข้ามานอนกับเย่เสียวเทียนด้วย 

ท้ายเรื่องยังทิ้งปมเรื่อง หยางฮัว ที่แค้นเย่เสี่ยวเทียนเป็นศัตรูของพ่อ ว่าพอโตขึ้นมาแล้วจะแก้แค้นสำเร็จ หรือกลายเป็นเมียเย่เสี่ยวเทียนไปอีกคน

สรุปแล้ว เย่เสี่ยวเทียนมีเมียทั้งหมด 7 คน ถือว่าใกล้เคียงกับพระเอกคนอื่นๆ ของเยี่ยกวน (เซี่ยสินในพยัคฆราชมี 9 คน, หยางหลิงในย้อนอ๋องมี 12 คน) เรียงตามลำดับการเป็นเมีย

  1. ตวอหนี น้องสาวตะวัน
  2. อวี่จวินถง ยังไม่ได้แต่งเข้าในตอนแรก
  3. เถียนเมี่ยวเหวิน เป็นฮูหยินกุมอำนาจ
  4. จั่นหนิงเอ๋อ
  5. เซี่ยอิ่งอิ๋ง 
  6. ซ่งเสี่ยวหวี่
  7. เหยาเหยา
บทวิจารณ์

ต้องยอมรับว่า เจ้ารัตติกาลฯ เป็นนิยายที่ด้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ของเยี่ยกวนอยู่พอสมควร (ทั้งพยัคฆราช และย้อนเวลาขึ้นเป็นอ๋อง) และมีคนที่รู้จักหลายคน เลิกซื้อกลางทางไปก็มาก

ปัจจัยสำคัญคิดว่ามาจากนิยายที่เป็นลูกผสม ไปไม่สุดทางสักทาง
  • เล่มแรกๆ เหมือนจะเน้นฮา หลายคนไปเทียบกับอุ้ยเสี่ยวป้อ แต่ช่วงหลังๆ ก็ไม่ฮา
  • มีเรื่องอภินิหาร นิกายหนอนคุณไสย ก็ใช้ประเด็นนี้อยู่นิดเดียวเอง ไม่เยอะอย่างที่บิ้วไว้ตอนแรกๆ 
  • เรื่องการเมืองช่วงชิง ก็เป็นการช่วงชิงในพื้นที่ขนาดเล็ก ไม่ใช่การตีชิงแผ่นดินเหมือนเล่มอื่นๆ
ถึงแม้แกนกลางของเรื่องยังมีลายเซ็นของเยี่ยกวน (พระเอกเก่ง ฉลาด เมียเยอะ) ที่รักษาคุณภาพเดิมไว้ได้ อ่านได้พอเพลินๆ แต่พอเซ็ตติ้งมันไม่ค่อยลงตัว มันเลยไม่สนุกอย่างที่ควรจะเป็น

คาแรกเตอร์ของเย่เสี่ยวเทียน ก็เป็นลูกผสมระหว่างตัวเอกของเยี่ยกวนคนอื่นๆ แต่ตัวเขาเองก็ไปไม่สุด ตอนแรกสุดเลยไม่เน้นช่วงชิง แต่พอตอนหลังๆ ก็ทะเยอทะยาน อยากเป็นอ๋องท้องถิ่นกับเขาบ้าง เส้นเรื่องเองก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ระหว่างขึ้นเขา เข้าเมืองเล็ก เข้าเมืองใหญ่ ไปนครหลวง วนไปวนมาค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าปลายทางอยู่ที่ไหนกันแน่

ตัวร้ายคือ หยางอิงหลง ที่วางภาพไว้ซะเลิศเลอ ก็แพ้ง่ายๆ ตัวละครหลายตัวที่ปูบทเอาไว้ เช่น ผู้เฒ่าแห่งตระกูลอัน ก็ไม่ได้โชว์ฝีมือมากเท่าที่ควร

ส่วนตัวละครหญิงเป็นอย่างที่เคยวิจารณ์ไปแล้ว ว่าคาแรกเตอร์ของเถียนเมี่ยวเหวิน กับ อวี่จวินถิงคล้ายกันเกินไป และน้องสาวตะวันก็บทน้อยมากในช่วงหลัง แถมตัวละครจับยัดอย่าง ซ่งเสี่ยวหวี่ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามา (ยกเว้นเอาใจแฟนๆ สายฮาเร็ม) แม้ 3 ตัวละครหญิงหลักคือ สามเสือแห่งสุ่ยซี มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนดีก็ตาม

หมายเหตุประวัติศาสตร์:

การกบฎของหยางอิ่งหลง มีจริงในประวัติศาสตร์ โดยเรียกว่า กบฎปอโจว (Bozhou Rebellion) ตามพื้นที่ในเรื่อง

แต่ในประวัติศาสตร์จริง การกบฎยาวนานถึง 11 ปี (1589-1600) โดยระหว่างทางราชสำนักได้เสนอให้ หยางอิ่งหลง ส่งกองทัพไปสู้กับญี่ปุ่นแลกกับการนิรโทษกรรม ซึ่งหยางอิ่งหลงก็ส่งไปจริงๆ แต่ไม่ได้รบจริง เพราะอยู่ระหว่างทาง ฝั่งญี่ปุ่นก็ถอยทัพก่อน จากนั้นถึงค่อยกลับมาก่อกบฎต่อ

หลังจากหยางอิ่งหลงแพ้ ตำแหน่งถู่ซือของพื้นที่ปอโจวถูกยกเลิกไป และเปลี่ยนมาเป็นเขตปกครองของราชสำนักแทน

เจ้าแห่งชนเผ่าทั้ง 4 ตระกูลก็มีตัวตนอยู่จริง
  • ถู่ซือเขตปอโจว (Bozhou) ของตระกูลหยาง (Yang) ถูกยุบไปในปี 1600 หลังหยางอิงหลงกบฎล้มเหลว
  • ถู่ซือเขตซือโจว (Sizhou) ของตระกูลเถียน (Tian) หมดอำนาจไปตระกูลแรกคือปี 1413 ในยุคหมิงตอนต้น (หย่งเล่อ) เป็นเหตุให้เถียนเมี่ยวเหวิน เถียนปิงฮุย อยากฟื้นเกียรติตระกูล
  • ถู่ซือเขตสุ่ยตง (Shuidong) ของตระกูลซ่ง (Song) หมดอำนาจในปี 1623 (หลังเหตุการณ์ในเรื่อง 20 กว่าปี) เพราะกลุ่มถู่ซือก่อกบฎต่อราชวงศ์หมิงอีกรอบ
  • ถู่ซือเขตสุ่ยซี (Shuixi) ของตระกูลอัน (An) เป็นเจ้าแห่งชนเผ่าระดับท็อปสุด ร่วมก่อกบฎในปี 1623 แต่ได้รับอภัยโทษ ในปี 1664 ก่อกบฎอีกรอบ (ในยุคราชวงศ์ชิง) แต่แพ้แม่ทัพอู๋ซานกุ้ย (คนเดียวกับในเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อ) และมาหมดอำนาจจริงๆ ถูกผนวกเข้าระบบราชการในปี 1698 หรือประมาณ 100 ปีจากเหตุการณ์ในเรื่อง
ว่านลี่ฮ่องเต้ ครองราชย์นานถึง 48 ปี เป็นกษัตริย์หมิงที่ครองราชย์นานที่สุด แต่หลังเหตุกบฎทั้ง 3 ในเรื่อง (ปราบหยางอิ่งหลงได้ในปี 1600) พระองค์ก็เลิกสนใจว่าราชการไปเลย เป็นเวลานานอีก 20 ปีถึงสวรรคต ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น ไม่พอใจเหล่าขุนนาง และมีประเด็นดราม่าเรื่องการตั้งรัชทายาท 

การที่จักรพรรดิว่านลี่ไม่ออกว่าราชการนาน 20 ปี ทำให้ราชสำนักหมิงตกต่ำลง และช่วงปลายๆ รัชกาล ชนเผ่าแมนจูก็เริ่มกล้าแข็งขึ้นมานั่นเอง (นูรฮาซื่อ ต้นตระกูลแมนจู เป็นคนร่วมสมัยกับจักรพรรดิว่านลี่ ตายไล่เลี่ยกันคือ ว่านลี่ตาย 1920 นูรฮาซื่อตาย 1926) 

ภายหลังในยุคของจีนคอมมิวนิสต์ ศพของว่านลี่ถูกกลุ่ม Red Guard ขุดขึ้นมาสาบแช่งและทำลาย ในฐานะที่ทำให้ราชวงศ์หมิงล่มสลาย

1 comment:

  1. เรื่องนี้ด้อยสุดจริง มันขาดๆเกินๆเนื้อหาจริงๆคือไม่มีอะไรมาก รู้สึกไม่อยากอ่่านซ้ำ เยี่ยกวนผมรอแค่ 步步生莲 สนุกมีพล๊อดย่อยและปมต่างๆน่าสนใจและจบดีแต่ดันไม่เอามาแปล

    ReplyDelete