11/25/2012

“เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ” ความอลังการครั้งใหม่ของนิยายกำลังภายในจีนแห่งศตวรรษที่ 21

โดย เจริญชัย ไชยไพบูลย์วงศ์ เผยแพร่ครั้งแรกที่ Siam Intelligence
ทุกครั้งที่ตั้งต้นจากจุดเริ่มต้น ข้าพเจ้าคิดค้นหาความเป็นไปได้จากงานสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ามองข้ามหรือเก็บกดอย่างไร การค้นหาและการก้าวข้ามเป็นความฝันที่มนุษยชาติเราแสวงหาตลอดกาล
หวงอี้
นิยายกำลังภายในจีน เป็นโลกที่เพ้อฝันหลุดพ้นของแฟนนักอ่านกลุ่มหนึ่ง เป็นโลกที่สมบูรณ์พร้อมในตัวเอง แต่ก็เป็นโลกที่บุคคลภายนอกไม่อาจเข้าใจ ไม่เห็นคุณค่า และไม่ปรารถนาเข้าร่วม

จวบจนกระทั่ง หวงอี้ สุภาพบุรุษร่างเล็กใจแกร่งแห่งเกาะฮ่องกง ได้รังสรรค์ “มังกรคู่สู้สิบทิศ” ในปี 2539 โลกกำลังภายในก็ค้นพบแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ จากเดิมที่พระเอกล้วงกระเป๋าคราใดก็มีเงินซื้อหาข้าวปลาอาหาร เริ่มเปลี่ยนเป็นพระเอกที่ต้องอาศัยการค้าเกลือเถื่อนเป็นเครื่องประทัง ชีวิตและหล่อเลี้ยงไพร่พล แต่เดิมฉากสงครามและประวัติศาสตร์จีนเป็นเพียงเงาหลัง ก็พลันเปลี่ยนพลิกเป็นความอลังการของกองทัพ การจัดสรรกำลังพลทั้งซ่อนเร้นและเปิดเผย อีกทั้งการวางแผนกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งแยบคาย การช่วงชิงทางการเมืองที่ยอกย้อนสมจริง พระเอกและผู้ร้ายล้วนแต่ใช้เล่ห์กลเข้าห้ำหั่นเชือดเฉือนกัน โดยไม่เลือกวิธีใช้

ชีวิตในโลกนิยายกำลังภายใน จึงเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอมรวมกลมกล่อมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกจริง

ในปี 2544 หวงอี้ได้พัฒนาโลกกำลังภายในไปสู่จุดสูงสุดครั้งใหม่ โดยการสร้างสรรค์มหากาพย์ยิ่งใหญ่ “จอมคนแผ่นดินเดือด” ที่ทำให้ประวัติศาสตร์จีนหลังยุคสามก๊กได้ฟื้นคืนชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง ความเก่งกาจและหยิ่งทระนงของพระเอกในเรื่องมังกรคู่สู้สิบทิศ กลับเปลี่ยนแปรเป็นแรงกดดันบีบเค้นของชีวิตนายทหารชั้นผู้น้อยแห่งราชวงศ์ จิ้นตะวันออก ที่ต้องสั่งสมกำลังและบารมีทีละน้อย ผ่านความอดทนอดกลั้นอย่างทรหด จนกระทั่งเติบโตเป็นจอมคนที่ยิ่งใหญ่โดยสมบูรณ์ในตอนท้ายเรื่อง

จากวิถีวีรบุรษที่ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน ได้กลายเป็นวิถีจอมคนที่ต้องเคารพกฎเกณฑ์แห่งประวัติศาสตร์

เมื่อเส้นทางสายใหม่ได้รับการบุกเบิกขึ้น ก็ย่อมมีคลื่นลูกใหม่ไล่ตามมาเป็นธรรมดา

ในบรรดาพลังหนุ่มที่ก้าวขึ้นมาทัดเทียมหวงอี้อย่างกระชั้นชิด ย่อมหนีไม่พ้น “ยุทธการล่าบัลลังก์” ที่ประพันธ์โดยนักเขียนเลือดสุรานามว่า จิ่วถู

ความท้าทายสำคัญของมหากาพย์เรื่องนี้ คือ การตีความใหม่และเติมเต็มรายละเอียดให้กับประวัติศาสตร์ตอนต้นของราชวงศ์ถัง จนกระทั่ง ผู้เชี่ยวชาญบางคนยกย่องให้เหนือล้ำกว่า “มังกรคู่สู้สิบทิศ” ที่รจนาโดยหวงอี้ นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่กระตุ้นท้าทายให้ปรมาจารย์นิยายกำลังภายในอิง ประวัติศาสตร์จีนต้องกลับคืนสู่วงการอีกครั้งหนึ่ง

“เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ” ที่ได้ฤกษ์วางจำหน่ายไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555 นับเป็นนิยายกำลังภายในเล่มล่าสุดของหวงอี้ หลังจากที่ห่างหายไป 5 ปีเต็ม ประสบการณ์และความสุขุมลุ่มลึก ย่อมเพิ่มพูนขึ้นตามกาลเวลา หากทว่า ความกดดันที่โหมกระหน่ำเข้ามา ทั้งจากความท้าทายของเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังมาแรง ทั้งการว่างเว้นจากปลายปากกาและรอยน้ำหมึกไปนาน จึงทำให้ผลงานชิ้นนี้เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายที่หวงอี้จะพลาดไม่ได้

บูเช็กเทียน คือ ยอดสตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์จีน ซึ่งหวงอี้จงใจคัดสรรมาเป็นตัวละครสำคัญในเรื่องเหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ ความพิเศษแปลกใหม่ก็คือ พระนางเป็นกษัตริย์หญิงเพียงองค์เดียวในประวัติศาสตร์จีน ท่ามกลางสังคมที่ชายเป็นใหญ่ จึงเปิดโอกาสให้หวงอี้สามารถบุกเบิกเส้นทางใหม่ได้ โดยไม่ติดกรอบคิดแบบเดิม

ที่สำคัญก็คือ วิธีการเล่าเรื่องแบบนิยายกำลังภายใน ได้ทำให้หวงอี้สามารถแต่งเติมปูมหลังชิวิตของบูเช็กเทียน ให้กลายเป็นลูกศิษย์ในสังกัดพรรคมาร ที่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำประเทศได้สำเร็จ ทำให้เกิดปมขัดแย้งในการปกครองประเทศที่ต้องอาศัยตำราขงจื้อเป็นหลักในการบ ริหาร ที่ต้องถูกฝ่ายธรรมะบีบบังคับให้กวาดล้างพรรคมารซึ่งตนเองเคยสังกัดให้สิ้น ซาก

ยิ่งกว่านั้น หวงอี้ยังหาญกล้าที่จะเสกเป่าตัวละครฝ่ายมารที่มีชื่อว่า “หลงอิง” ให้กลายเป็นพระเอกของเรื่อง จึงทำให้ขอบฟ้าของนิยายกำลังภายในจีนยืดขยายออกไปอย่างไร้ที่สิ้นสุด

“สำนักมาร” ในความหมายของหวงอี้ นับเป็นการท้าทายนิยามของความดีเลว ที่เคยเป็นขนบธรรมเนียมของนิยายกำลังภายในแต่เดิมมา หากทว่านี่เป็นครั้งแรกที่หวงอี้ยินยอมให้ตัวละครฝ่ายมารทั้งยึดกุมอำนาจ ปกครองประเทศจีน ทั้งยึดกุมอำนาจในการเป็นพระเอกของเรื่อง

ศตวรรษที่ 21 เป็นห้วงเวลาแห่งความเปลี่ยวเหงาโดยแท้ ความอลังการยิ่งใหญ่ของมนุษย์ ได้ถูกลดทอนลงโดยระบบทุนนิยม ทุกสิ่งถูกแปลงร่างเป็นสินค้า หากยังเหลือที่ว่างให้ซุกใจเข้าไปในโลกโบราณที่ลี้ลับ ซึ่งต้องอาศัยนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงนั่นเอง

ท้ายที่สุด เราก็ทราบกันดีว่า “บูเช็กเทียน” ได้พ่ายแพ้ให้กับสังคมชายเป็นใหญ่ ถูกประณามจากคนรุ่นหลังอีกนับพันปี หากทว่า ระหว่างเส้นทางแห่งการไต่เต้าตั้งแต่สนมงามชั้นผู้น้อย จวบจนเป็นองค์มหาจักรพรรดินี ช่างเต็มไปด้วยสีสันเพริศพริ้ง ย่อมคุ้มค่าแล้วที่ได้ถือกำเนิดเกิดมา

“เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ” จะก้าวเข้าสู่การเป็นทำเนียบคลาสสิคของนิยายกำลังภายใน ก็ต้องอาศัยพลังการสร้างสรรค์ที่แตกต่างไปจากเดิม เพราะจุดสูงสุดของนิยายกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์ ได้บรรลุไปแล้วด้วยมหากาพย์จอมคนแผ่นดินเดือด เส้นทางใหม่ที่หวงอี้จะก้าวข้ามความสำเร็จเดิมของตนเอง ก็จะต้องผลักดันสำนักมารที่เคยเป็นฝ่ายนอกรีต ให้กลายเป็นผู้ปกครองที่ทรงอำนาจ ให้ต้องพบกับความขัดแย้งระหว่างความดีและความเลว ระหว่างระเบียบจารีตนิยมแบบขงจื้อ และความปล่อยตัวปล่อยใจที่เต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์แบบจวงจื้อ

นี่เป็นครั้งแรกที่แฟนนักอ่านชาวไทย จะได้สัมผัสกับผลงานของหวงอี้ไปพร้อมกับแฟนนักอ่านชาวจีน เหมือนกับได้ชื่นชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก แทนที่จะคอยดูเทปการแข่งขันย้อนหลัง ซึ่งแม้จะมีเนื้อหาและผลแพ้ชนะที่เหมือนกัน แต่อารมณ์ความรู้สึกของการลุ้นระทึกย่อมแตกต่างกัน
ความเสี่ยงเพียงประการเดียวก็คือ หากเรื่องนี้เขียนไปไม่ถึงตอนจบแล้วผู้เขียนชิงลาโลกไปก่อน หรือเนื้อเรื่องไม่เข้นข้นกลมกล่อมอย่างที่โฆษณาไว้ ผู้อ่านก็จะเสียอารมณ์ความรู้สึก เสียเงินเสียทองที่ได้ซื้อหาไปหลายเล่มก่อนหน้านี้

แต่สิ่งสำคัญที่สุด กลับไม่ใช่เนื้อเรื่องในตอนท้ายว่าจะจบสมบูรณ์ลงตัวหรือไม่ หากเป็นคุณค่าระหว่างเส้นทางที่ก้าวเดิน ซึ่งนวนิยายของหวงอี้ที่ผ่านมา ได้การันตีว่าเปี่ยมล้นด้วยคุณภาพ ทั้งการดัดแปลงปรัชญาจีนมาเป็นวิชาฝีมือ ทั้งการวางแผนกลยุทธ์ในศึกสงคราม การช่วงชิงทางการเมือง และอารมณ์รู้สึกของตัวละคร ที่ทั้งเปลี่ยวเหงารันทด ทั้งทะเยอทะยานยิ่งใหญ่ พัวพันไปด้วยความรักแค้น และปมขัดแย้งในใจที่ไม่อาจคลี่คลาย

การได้ติดตาม “เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ” ที่ต้องคอยลุ้นทีละเล่ม ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เต็มไปด้วยความเสี่ยง ความหวาดหวั่น และความอิ่มเอมเบิกบาน ย่อมเป็นความอลังการครั้งใหม่ในชีวิต ที่พวกเราคนไทยในยุคศตวรรษที่ 21 ต่างก็โหยหากระหายเป็นอย่างยิ่ง

แรงบันดาลใจจากนิยายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเขียนได้จบถึงหยดสุดท้าย หรือทิ้งค้างไว้ ก็เชื่อแน่ว่าจะทำให้ใครหลายคน ได้นำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ความสำเร็จให้ชีวิต หรือแม้กระทั่งเปิดมุมมองใหม่ในเรื่องราวความรัก กระตุ้นให้ขบคิดตีความในเรื่องความดีเลว ความเป็นเทพและความเป็นมารอย่างถึงแก่น
การอ่านหนังสือที่ดี ย่อมกระตุ้นพลังซ่อนเร้นยิ่งใหญ่ในส่วนลึกของมนุษย์ ให้ทะลักหลั่งรินออกมา ประดุจดอกไม้ที่ผลิบานในยามวสันต์พรั่งพรู

1 comment:

  1. Hey! Someοne in my Ϻyspace group shared this site with us so I сame to check it out.
    Ι'm definitely loving the information. I'm boоk-marking and will be tweеtіng thіs tо mу follоwers!
    Οutstandіng blog and fantastic stуlе and dеsіgn.


    Hегe is my homepаgе: benefits from fish oils omega 3

    ReplyDelete